ความเป็นมาของวันเด็ก
เมื่อพ.ศ. 2498 ได้เกิดปฏิญญาว่าด้วยสิทธิเด็กขึ้นโดยการนำขององค์การสหประชาชาติทำให้ทั่วโลกเกิดความตื่นตัว และเห็นร่วมกันว่าควรจะให้ความสำคัญแก่เด็ก โดยกำหนดกันว่าจะถือเอาวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมของทุกปี เป็นวันเด็กแห่งชาติ ประเทศไทยในเวลานั้นก็ตอบรับกับเรื่องนี้โดยในวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ.2498 ประเทศไทยจึงมีงานเฉลิมฉลองวันเด็กแห่งชาติเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก จากนั้นเป็นต้นมาทางราชการได้กำหนดวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมของทุกปีเป็น วันเด็กแห่งชาติสำหรับประเทศไทย และจนถึงปี พ.ศ.2506 ที่ประชุมคณะกรรมการจัดงานวันเด็กแห่งชาติมีความเห็นว่าควรเปลี่ยนวันจัดงานวันเด็กแห่งชาติ เนื่องจากในเดือนตุลาคมสำหรับประเทศไทยเป็นเดือนที่ยังอยู่ในฤดูฝน เด็ก ๆ ไม่สะดวกในการมาร่วมงาน และวันจันทร์เป็นวันทำงานของผู้ปกครองจึงไม่สามารถพาเด็กของตนไปร่วมงานได้ จึงเห็นว่าควรเปลี่ยนเป็นวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคม ในปีพ.ศ.2508 จึงเป็นปีแรกที่เราจัดงานวันเด็กในวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคมจนมาถึงปัจจุบัน
กิจกรรมวันเด็กที่สร้างแรงบันดาลใจ
กิจกรรมวันเด็กมีความหลากหลาย ตั้งแต่กิจกรรมเชิงการศึกษา เช่น การทดลองวิทยาศาสตร์ นิทรรศการศิลปะ ไปจนถึงกิจกรรมเพื่อความสนุกสนาน เช่น การแสดงคอนเสิร์ต การแจกของรางวัล และการเปิดพื้นที่ให้เด็กๆ ได้เล่นและเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง บางองค์กรอาจจัดกิจกรรมพิเศษ เช่น การให้เด็กทดลองสวมบทบาทในอาชีพต่างๆ เช่น นักบิน หมอ หรือนักวิทยาศาสตร์ กิจกรรมเหล่านี้ช่วยสร้างแรงบันดาลใจและทำให้เด็กๆ มีความฝันที่ชัดเจนเกี่ยวกับอนาคตของตนเอง
การสร้างสังคมที่ดีสำหรับเด็ก
การพัฒนาเด็กไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ในวันเด็ก แต่เป็นหน้าที่ของทุกคนในสังคมที่จะร่วมมือกันสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเติบโตของพวกเขา การสนับสนุนให้เด็กมีพื้นที่เรียนรู้ที่ปลอดภัย การปลูกฝังคุณธรรม และการให้โอกาสที่เท่าเทียมเป็นสิ่งสำคัญ พ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูควรเป็นแบบอย่างที่ดีในการสร้างแรงบันดาลใจและความรักในชีวิตให้เด็ก เพื่อให้พวกเขาเติบโตมาเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพและร่วมพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้า
คำขวัญวันเด็กในปี 2568
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบคำขวัญเนื่องในโอกาส “วันเด็กแห่งชาติ”
“ทุกโอกาส คือ การเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง”